เนื่องจากอากาศที่ร้อนอบอ้าวขึ้นทุกวัน เป็นสาเหตุให้คนส่วนใหญ่มักจะหาสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติกันมากขึ้น เพื่อพักผ่อนและชาร์จแบตก่อนจะกลับไปเริ่มงานในวันจันทร์นั่นเอง บทความนี้เราจึงรวบรวม สถานที่ปอดสีเขียวของกรุงเทพฯ เพื่อเป็นแนวทางให้ทุกคนได้ไปพักผ่อน ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว ส่วนสถานที่ทั้งหมด จะมีที่ไหนบ้าง ไปเริ่มซึมซับความสดชื่นกันเลย
1. ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง ปตท.
เริ่มเข้าป่ากันที่ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง ปตท. สุขาภิบาล 2 พื้นที่ที่เต็มไปด้วยออกซิเจนบริเวณกว้าง ตั้งอยู่ใจกลางย่านอุดมสุข แหล่งเรียนรู้สำหรับเยาวชนและผู้ที่สนใจศึกษาธรรมชาตินานาชนิดที่สร้างขึ้นโดย ปตท. สามารถเรียนรู้ผ่านหนังสั้นเรื่อง "คน ป่า เมือง" ได้ที่โรงหนังขนาดย่อมด้านหน้าโครงการ รวมถึงห้องจัดนิทรรศการเป็นภาพ Infographic และวิถีการดำเนินชีวิตของคนสมัยก่อน เป็นต้น ส่วนบริเวณด้านนอกมีทางเดินลอยฟ้าเพื่อไปยังหอคอยชมป่า ระหว่างทางมีต้นไม้นานาพรรณให้หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพเล่น โดยเป็นทางเดินไล่ระดับ ความยาว 200 เมตร เมื่อถึงหอคอยสามารถขึ้นไปถ่ายรูป สูดอากาศบริสุทธิ์ หรือชมวิวป่ารอบเมืองได้
ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง ปตท. ถนนสุขาภิบาล 2 เปิดทุกวัน เวลา 9.00 - 18.00 น.
2. บางกะเจ้า พระประแดง
อีกหนึ่งปอดสีเขียวที่เป็นปอดที่ดีที่สุดในเอเชียก็คือ บางกะเจ้า หรือที่เรียกกันว่า กระเพาะหมู เป็นเกาะเทียมที่เกิดจากคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยาโดยมีคลองลัดโพธิ์เชื่อมแม่น้ำทางทิศตะวันตก เป็นพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้นานาชนิด โดยมีเนื้อที่รวม 11,819 ไร่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ จุดถ่ายรูปแลนด์มาร์คที่ทุกคนต้องขึ้นไปถ่ายรูป สำหรับบางกะเจ้านั้น นอกจากธรรมชาติที่ให้ทุกคนปั่นจักรยานชมธรรมชาติรอบๆ แล้ว ยังมีตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง แหล่งรวมของกินมากมาย (เปิดวันเสาร์-อาทิตย์) รวมถึงวัดบางน้ำผึ้งใน วัดบางน้ำผึ้งนอก วัดบางกอกบัว วัดราษฎ์รังสรรค์ วัดบางกะเจ้ากลาง และวัดบางกะเจ้านอก นอกจากนี้ ยังมีพิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย และฟาร์มเห็ดช่างแดงอีกด้วย
บางกะเจ้า พระประแดง พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เปิดทุกวัน เวลา 5.00 - 19.00 น.
3. สวนวชิรเบญจทัศ จตุจักร
สวนวชิรเบญจทัศ หรือสวนจตุจักร เป็นสวนสาธารณะที่หลายๆ คนคงรู้จักกันดี เพราะที่นี่เรียกได้ว่าเป็นสวนสาธารณะในฝันของนักปั่นจักรยาน ด้วยเส้นทางจักรยานระยะทาง 3.2 กิโลเมตร ลัดเลาะดงไม้ ไต่เนินไปรอบนอกสวน จะเลือกเดินชมธรรมชาติ หรือวิ่งออกกำลังก็ทำได้ครับ หรือถ้าใครอยากเข้ามาถ่ายรูปในสวนสวยๆ แนะนำให้เดินมาที่อุทยานผีเสื้อและแมลงกรุงเทพมหานคร ศูนย์การเรียนรู้เพื่อให้เยาวชนและผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาพันธุกรรมของสัตว์เหล่านี้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ ยังมีสถานที่สำคัญอีกหลายแห่งในสวนวชิรเบญจทัศ อาทิ ศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ, ศูนย์เยาวชนวชิรเบญจทัศ, บ้านหนังสือของสำนักงานเขตจตุจักร, เมืองจราจรจำลอง, หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ, ศูนย์การเรียนรู้และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบางซื่อ และศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ “ความสุขปลูกได้”
สวนวชิรเบญจทัศ ถนนกำแพงเพชร 3 เปิดทุกวัน เวลา 5.00 - 21.00 น.
4. สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ จตุจักร
ถัดมาเป็นสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ อยู่ติดกับสวนจตุจักรและสวนวชิรเบญจทัศ เป็นสถานที่อีกแห่งที่เป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจของทุกคน และเต็มไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด บัวหลากหลายพันธุ์ รวมถึงความหลากหลายด้านชีวภาพ ส่วนใครที่ต้องการศึกษาพรรณไม้ที่นี่ก็มีให้เลือกเรียนรู้หลายสปีชีส์ รวมถึงไม้มงคลพระราชทานพรรณไม้ประจำจังหวัด 76 จังหวัด ซึ่งถือเป็นไม้ที่ค่อนข้างหายากได้ตามทั่วไป จึงเรียกได้ว่า สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เป็นศูนย์รวมพรรณไม้รับร้อยกว่าชนิดเลยก็ว่าได้ ใครที่สนใจศึกษาข้อมูล ลองเข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่ได้เลยนะครับ
สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ถนนกำแพงเพชร 2 เปิดทุกวัน เวลา 5.00 - 18.30 น.
5. สวนลุมพินี ลุมพินี
มาต่อกันที่ สวนลุมพินี สวนสาธารณะใจกลางกรุงเทพฯ มีขนาด 360 ไร่ ถือว่าเป็นสวนสาธารณะแห่งแรกในกรุงเทพฯ ที่เปิดให้ประชาชนเข้ามาสูดอากาศบริสุทธิ์ ส่วนใหญ่เรามักจะพบคนที่ชอบออกกำลังกายมาวิ่งในสวนลุม เนื่องจากมีมีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ บริการรับฝากของ ศูนย์ส่งเสริมกีฬา เรือถีบ และลานแอโรบิค ทำให้สวนลุมกลายเป็นสถานที่ออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมจากคนเมืองอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ครับ นอกจากนี้ สวนลุมยังสร้างเลนปั่นจักรยานสำหรับนักปั่นทั้งหลายอีกด้วย ทำให้ทั้งคนวิ่งและคนปั่นไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยนั่นเองครับ
สวนลุมพินี แยกศาลาแดง ถนนพระราม 4 เปิดทุกวัน เวลา 4.00 - 21.00 น.
6. สวนหลวง ร.9 ประเวศ
สวนหลวง ร.9 ถือเป็นสวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ มีเนื้อที่มากกว่า 500 ไร่ จัดแต่งให้มีสวนหลากหลายประเภทในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็น ทั้งสวนไทย จีน ญี่ปุ่น ตะวันตก และสวนน้ำ เหมาะสำหรับคนที่ชอบวิ่งแบบไม่จำเจ หากไปก่อน 9 โมงเช้า สามารถจอดรถฟรี แต่ถ้าเป็นเวลาอื่นจอดครั้งละ 10 บาทครับ และนอกจากเป็นสถานที่ออกกำลังกายของหลายๆ คนแล้ว สวนหลวง ร.9 ยังเป็นแหล่งการเรียนรู้ด้านพฤกษศาสตร์ มีการปลูกรวบรวมพรรณไม้ต่างๆ เพื่อการศึกษา เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ รวมทั้งยังเป็นสถานที่ที่ช่วยปลูกฝังทัศนคติการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีกด้วยครับ
สวนหลวง ร.9 ถนนสุขุมวิท 103 (อุดมสุข) เปิดทุกวัน เวลา 5.00 - 19.00 น.
7. อุทยานจุฬาฯ 100 ปี สามย่าน
อุทยานจุฬาฯ 100 ปี ถือเป็นสวนสาธารณะต้นแบบ เพื่อช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับสภาวะโลกร้อน และการจัดการปัญหาน้ำท่วมให้แก่พื้นที่โดยรอบเลยก็ว่าได้ครับ โดยเป็นทั้งสวนสาธารณะสำหรับคนชอบออกกำลังกาย และนักปั่นจักรยาน เป็นแหล่งเรียนรู้ของสังคม นักเรียน นิสิตนักศึกษา และชุมชนในเรื่องพันธุ์ไม้ รวมถึงเป็นพื้นที่ที่สนับสนุนการปลูกต้นไม้เมือง เพื่อเป็นแหล่งรับน้ำและสร้างระบบน้ำหมุนเวียน
อุทยานจุฬาฯ 100 ปี สามย่าน 254 ถนนพญาไท เปิดทุกวัน เวลา 5.00 - 22.00 น.
8. อุทยานเบญจสิริ คลองเตย
อุทยานเบญจสิริ คลองเตย เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานี BTS พร้อมพงษ์ จุดเด่นคือมีบ่อน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางสวนสาธารณะ สามารถมาวิ่งออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬาได้ที่สนามที่ทางอุทยานจัดไว้ให้ สนามเด็กเล่น ลานสเก็ตบอร์ด สนามบาสเกตบอล สนามตะกร้อ หรือแม้กระทั่งสระว่ายน้ำขนาด 12.5 x 25 เมตร นอกจากนี้ ภายในอุทยานยังมีประติมากรรมโดยศิลปินระดับชาติตั้งประดับอยู่เป็นการถาวรถึง 12 ชิ้น จึงเป็นทั้งสวนสาธารณะและจุดชมงานศิลปะไปในคราวเดียวกัน
อุทยานเบญจสิริ พร้อมพงษ์ สุขุมวิท 22-24 เปิดทุกวัน เวลา 5.00 - 21.00 น.
ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก https://travel.trueid.net/detail/j2b1976JogE4 , https://www.sanook.com/travel/1404657/
ขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก https://th.foursquare.com/
Comments